“เพียงฉีกซอง ใส่น้ำร้อน และรอเพียง 3 นาที คุณก็จะได้รูปร่างในฝันของคุณแล้วครับ” ทุกวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เจอสื่อการออกกำลังกายทุกที่เลยนะครับ ผมได้เห็นได้เจอหลายๆอย่างที่ทำให้ผมทั้งอึ้งและทึ่งในสิ่งที่ผมได้เห็นได้อ่าน ซึ่งความรู้สึกค่อนไปทางด้านเสียความรู้สึกและกลัวครับ สิ่งที่ผมเห็นบนป้ายโฆษณา แม๊กกาซีน สื่อโทรทัศน์ ซึ่งเวลาที่สื่อเขียนถึง/กล่าวถึงเรื่องการออกกำลังกายก็มักเต็มไปด้วยข้อความที่หาความเป็นจริงได้ยาก อย่างในตัวอย่างประโยคที่ผมให้เกลื่อนไว้ในตอนต้น เพราะสื่อต้องใช้คำเหล่านี้โฆษณาให้กับคนทั่วไป และคำเหล่านี้คือสิ่งที่คนทั่วไปมักถูกใจและจูงใจเป็นอย่างมาก และสิ่งที่จูงใจ ถูกใจนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่คนอยากได้แต่ไม่มีอยู่จริง เช่น มีซิกแพ็กอย่างชัดเจนได้ภายในเวลา 6 สัปดาห์... ลดน้ำหนัก 5 กิโลภายใน 7 วัน... มีไบเซ็บได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีต่อวัน... ข้อความต่างๆเหล่านี้มีสูตรของมันครับ ซึ่งอาจจะเป็น
เพิ่ม + ____________________ + ในระยะเวลา + ______________________ = จำนวนเงิน
(ใส่สิ่งที่ต้องการ) (ใส่ระยะเวลาสั้นๆ)
ลด + ____________________ + ในระยะเวลา + ______________________ = จำนวนเงิน
(ใส่สิ่งที่ไม่ต้องการ) (ใส่ระยะเวลาสั้นๆ)
(ใส่สิ่งที่ต้องการ) (ใส่ระยะเวลาสั้นๆ)
ลด + ____________________ + ในระยะเวลา + ______________________ = จำนวนเงิน
(ใส่สิ่งที่ไม่ต้องการ) (ใส่ระยะเวลาสั้นๆ)
แน่นอนครับ สิ่งที่พวกเขาสื่อออกมา และสิ่งที่คุณเห็นนั้นเป็นสูตรสำเร็จครับ สำหรับใครนะหรอ ในส่วนแรกไม่ใช่สำหรับคุณแน่ๆครับ สิ่งนี้เป็นสูตรการทำการตลาดครับ แต่สิ่งที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะนั้นก็คือ จำนวนเงินที่คุณจะต้องเสียให้เขา ใช่ครับ แค่นั้นเองครับที่ออกแบบมาเป็นสูตรให้คุณ เพื่อคุณ สำหรับคุณโดยเฉพาะ เร็ว ทันใจจริงๆเลยใช่ไหมครับ
Every day, I go around the city for various reasons: getting food, getting coffee, paying bills, meeting friends, etc. And every day, I’m both amazed and disappointed at the same time. The reason for this is in the glossy magazines and TV ads that assault us like an enraged teacher with a new bamboo switch. Countless ads telling me I can get “ripped abs in six weeks,” “lose 5kg in 7 days,” or “get big biceps in ten minutes a day.” These are all quick fixes and they’re all the same in that they apply one of these two formulas:
Get + ____________________ + in + ______________________ = $
insert desirable thing) (insert short time period) OR
Lose + _____________________ + in + _____________________ = $
(insert undesirable thing) (insert short time period)
insert desirable thing) (insert short time period) OR
Lose + _____________________ + in + _____________________ = $
(insert undesirable thing) (insert short time period)
I’m pretty sure they actually use those formulas in the marketing office. By the way, if you’re wondering who gets the money, it’s not you.
โอเคครับ ผมจะลองมองและวิเคราะห์ในสิ่งที่สื่อโฆษณาชวนเชื่อบอกคุณให้ฟังนะครับว่า แล้วสิ่งที่เขาบอกนั้นจะได้ผลจริงหรือไม่ ซึ่งผมวิเคาระห์ออกมาเป็น 2 ข้อใหญ่ๆแบบนี้ครับ ข้อที่หนึ่งคือ สิ่งต่างๆที่โฆษณาชวนเชื่อบอกนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นข้อเสนอที่ไม่ยั่งยืนครับ แน่นอนครับเมื่อมันเป็นวิธีที่ไม่ยังยืน (ไม่สามารถทำได้จริง ไม่สามารถทำได้นาน) และคำตอบง่ายๆของสิ่งเหล่านี้คือ ไม่ได้ผลครับ เช่น เขาบอกว่ากินเท่านี้เคลลอรี่ต่อวันแล้วจะผอมลงภายใน 5 วัน 7 วัน แล้วเขาบอกให้คุณกินอะไรครับ ในหนึ่งวันเขาบอกให้คุณกินได้เพียง โยเกริตปราศจากไขมันและน้ำตาล วันละ 2 ถ่วยเล็กๆ กับผมลไม้น้ำตาลน้อยอีกหยิบมือเล็กๆ แค่นี้ครับ ผมอยากให้คุณตั้งคำถามกับตัวเองก่อนครับว่า คุณสามารถกินแบบนี้ไปได้ตลอดชีวิตหรือเปล่า ถ้ามันเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ นั้นก็คือคำตอบครับว่าสิ่งๆนั้นมันเชื่อไม่ได้ และจะไม่เป็นผลดีกับคุณในระยะยาวแน่นอนครับ
ข้อที่สองครับ โฆษณาชวนเชื่อมักไม่ได้บอกว่า แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น หลังจากวันที่เขาถ่ายแบบลงปกหนังสือ หรือภาพยนต์โฆษณา ใช่ครับเขาไม่ได้บอกเรา ก็คล้ายๆกับหนังรักนั้นแหละครับ เมื่อตอนจบที่พระเอกนางเอกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข นั้นคือสิ่งที่เขาโชว์ให้คุณเห็น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาทำงานในสมองของเราคล้ายๆกันอยู่อย่างนึงนั้นก็คือ ทำให้เราเชื่อว่า มีแขนขาที่เรียวเล็ก หน้าท้องที่แบนราบ มีกล้ามที่ใหญ่โตได้นั้นเป็นนิรันดร์ หรือรักแท้นั้นมีอยู่จริง แม้กระทั่งพระเอกให้เลวแค่ไหนก็จะกลับมาเป็นคนดีในตอนจบ หรือนางเอกต้องสวยมาก ดีมาก รอเราอยู่เสมอไปนั้นมันไม่ค่อยเกิดขึ้นในชีวิตจริงๆของเราเนี่ยซิครับ นั้นคือสิ่งที่เขาไม่ได้บอกเรา เพราะหลังจากภาพสวยงามเหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว หลายสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้ที่คุณจะต้องลงทุนลงแรงแลกมาให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา และสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สูตรสำเร็จของความสุข ความสวยงามที่เพียงฉีกซอง เติมน้ำร้อน และจะพร้อมดื่ม พร้อมกินภายใน 3 นาทีซะที่ไหนละครับ
ในเมื่อทั้งสองข้อที่ผมวิเคราะห์มานี้นั้นหมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้น แล้วคนส่วนใหญ่ทำอะไรนะหรอครับ บางคนก็อาจจะพยายามอีกครั้ง หรือบางคนก็อาจจะไปเชื่อโฆษณาตัวใหม่ หรือบางคนก็เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นที่ต่างไปหรือที่เคยทำมาก่อนครับ สูตรต่างๆเหล่านี้ ไม่ว่าคุณจะพยายามทำแค่ไหน มันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำให้เกิดขึ้นได้อย่างถาวรในช่วงเวลาสั้นๆที่เขาบอกนะครับ
Do some of these quick fixes work? Sure. There are two problems, though. First, almost all of them are completely unsustainable. If you think you can live on two cups of low-fat yogurt and a few pieces of fruit a day for the rest of your life, you obviously haven’t tried it. |
Second, most of these quick fixes ignore a very important question: what do you do after the advertised period ends? Most people either try to do the quick fix again (if it worked), find a different quick fix (if it didn’t), or just go back to what they were doing before. In the first two cases, they rarely get the results they want. In the last one, they end up back where they started.
ผมมีโจทย์ง่ายๆให้คุณลองตอบกันดูเล่นๆครับ ถ้าโดยปกติแล้วคุณคือคนที่ชอบกินอาหารฟาร์ทฟูต KFC แม็คโดเนล อาหารขยะต่างๆที่คุณชอบรสชาติและตอบโจทย์ให้กับชีวิตอันแสนจะวุ่นวายของคุณเพราะอาหารเหล่านี้มักมีทั่วไปในท้องตลาด แถมเวลาที่คุณไม่อยากฝ่ารถติดออกไปซื้อของมาทำกินเอง ง่ายๆครับ โทรเลย 1150 หรือเบอร์อะไรก็ได้ เขามีนักซิ่งมืออาชีพ บิดมาส่งให้คุณกินถึงที่ นั่งแช่อยู่บนโซฟา ดูซีรี่โปรด เล่นเกมส์ไปอีกครับ สบายดีใช่ไหมครับ แต่พออยู่มาวันนึงคุณกลับคิดได้ว่า “ไม่ไหวแล้วววว อ้วนเกินไปแล้ว หุ่นไม่ดีหมดแล้ว สุขภาพก็ไม่ดี เป็นอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว เราต้องทำอะไรซักอย่างซะแล้ว” ในขณะที่คิดอยู่นั้น ก็นั่งดูโฆษณาชวนเชื่อในเฟสบุ๊คไปด้วย “ลดแน่!!! 5 กิโลกรัม ภายใน 10 วัน” แล้วคุณอาจจะคิดว่า “เอาเว้ย อยากสุขภาพดี อยากหุ่นดี ว่าไงว่าตามกันละทีนี้...ฮึบ” จบไป 10 วันอันแสนจะทรมาน คุณก็ลดมาจริงๆ 5 กิโลกรัม เย้!!! คำถามครับ ผมถามว่าแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป? ... คำตอบครับ 5 กิโลกรัมนั้นที่ลดไปคุณจะได้มันกลับคืนมาแบบรวดเร็วทันใจยิ่งกว่าสินเชื่อติดล้อซะอีกครับ เผลอๆมามากกว่าเดิมก็เป็นไปได้ครับ นี่แหละครับคือสูตรสำเร็จที่เขาโฆษณากัน แต่ในกรณีเดียวกันสิ่งที่ผมจะแนะนำให้ทำก็คือ เปลี่ยนการใช้ชีวิต เปลี่ยนในสิ่งที่คุณคิดว่ามันสำคัญต่อชีวิตมากที่สุดก่อน ค่อยๆเปลี่ยนครับ และควรเริ่มจากสิ่งที่คุณคิดว่าคุณทำได้นานที่สุดก่อน เช่น เปลี่ยนจากการขึ้นลิฟท์ ขึ้นบรรไดเลื่อน มาเป็นเดินขึ้นบันไดครับ หรือลองงดดื่มน้ำหวาน เช่น ชาไข่มุก น้ำอัดลมสีใสๆหวานๆ จากกินวันละแก้วก็ให้เป็น 2 วันแก้ว และเหลือเป็นสัปดาห์ละแก้ว จนเลิกไปเลย หรือ เคยดื่มกาแฟหวานๆ ก็เปลี่ยนมาเป็นกาแฟใส่นมอย่างเดียว หรือเปลี่ยนมาเป็นกาแฟดำ หรือ ค่อยๆเสริมอาหารที่มีผักเข้ามาในแต่ละวัน วันละมื้อก่อน จนสามารถกินทุกมื้อได้ หรือ จะเริ่มจากการออกกำลังกายก่อนก็ได้ครับ ซึ่งอาจจะเริ่มจากการออกกำลังกายในรูปแบบไหนก่อนก็ได้ครับ จากสัปดาห์ละ 2 วันก่อน จนสามารถเพิ่มไปเรื่อยๆ ค่อยๆเพิ่มครับ สิ่งเหล่านี้ต่างหากครับที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัมนั้นได้ อาจจะใช้เวลามากกว่า 10 วัน แต่น้ำหนักที่ลดไปก็จะกลับมายาก ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังมีแนวโน้มว่าจะลดมากไปกว่า 5 กิโลกรัมนั้นก็เป็นได้ครับ และนี่คือสิ่งที่โฆษณาต่างๆเหล่านั้นไม่ได้บอกครับ เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่ช่วยให้พวกเขาได้เงินจากคุณ เพราะคุณทำเองได้ และสิ่งที่ถูกต้องเหล่านี้มันต้องใช้เวลานานกว่าที่เขาจะรอหรือเสียเวลากับคุณได้ แบบนี้เองครับบริษัทต่างๆเขาไม่ชอบ
อ่านมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้ว คุณต้องเป็นคนเลือกแล้วละครับ ว่าจะทำยังไงดีกลับโฆษณาต่างๆเหล่านี้ที่คุณเห็นอยู่ทุกวัน แต่เมื่อคุณต้องเลือก ผมเชื่อครับว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเองได้อย่างแน่นอน ผมเอาใจช่วยครับ
อ่านมาจนถึงตอนสุดท้ายแล้ว คุณต้องเป็นคนเลือกแล้วละครับ ว่าจะทำยังไงดีกลับโฆษณาต่างๆเหล่านี้ที่คุณเห็นอยู่ทุกวัน แต่เมื่อคุณต้องเลือก ผมเชื่อครับว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเองได้อย่างแน่นอน ผมเอาใจช่วยครับ
There’s a saying in business, “It’s not how much you make; it’s how much you keep that matters.” The same is true for fitness: it’s not how much fat you lose; it’s how much you keep off that matters. For that to happen, you need to change your lifestyle. You ate junk food and sat around watching TV all day, then did a 10 diet. You lost 5kg! Then you go back to eating junk food and sitting around watching TV all day. What do you think will happen? I’ll give you a hint, you gain the 5kg back. Make the necessary lifestyle changes: take the stairs instead of the lift; eat more vegetables and less sugar; do some form of exercise a couple of times a week. There’s a reason that doesn’t get advertised on TV and in magazines: it’s not fashionable and doesn’t make somebody else rich.